ก้าวสู่ชีวิตทางศาสนา ของ กรีโกรี รัสปูติน

การเดินทางครั้งที่สองของรัสปูตินในการมาเยือน Monastery of the Caves ที่เมืองเคียฟ, เกือบ 3,000 กิโลเมตรจากหมู่บ้านของเขา

รัสปูตินอ้างว่าการประจักษ์มาของพระแม่แห่งคาซันนำเขาไปสู่ชีวิตความศรัทธาด้านศาสนา ในช่วงราวปีค.ศ. 1893 เขาได้เดินทางมายังภูเขา Athos แต่เขานั้นตกใจอย่างสุดขีดและทำให้กระจ่างขึ้นมา ในขณะที่เขาบอก Makary[10]

ในปี ค.ศ. 1900 เขาระบุว่าเป็น strannik (ผู้แสวงบุญทางศาสนาในรัสเซีย) , นักบุญพเนจร[11] อย่างไรก็ตามรัสปูตินมักจะกลับบ้านมาช่วยเหลือครอบครัวในการเก็บเกี่ยวผลผลิต และได้รับถูกเรียกว่า ผู้มาใหม่ , yurodiviy (คนโง่เขลาที่ศักดิ์สิทธิ์)[12] โดยเหล่าผู้ติดตามที่เชื่อว่าสามารถจะหยั่งรู้และรักษาผู้คนได้[13] , แต่ถึงกระนั้นรัสปูตินก็ยังยืนยันว่าเขาไม่ใช่ที่ปรึกษาในคริสตจักรภาคตะวันออกหรือครูสอนเกี่ยวกับศาสนา[14] (ภาษาอังกฤษ : starets) , โดยรัสปูตินนั้นพยายามที่จะเรียนรู้ภาษาไซบีเรียอยู่หลายครั้ง แต่กระนั้นก็ไม่สามารถทำให้รัสปูตินเข้าใจภาษาไซบีเรียได้อยู่ดี[15] และการเทศนาหลักธรรมสอนที่ไม่บ่อยนัก

ในปี ค.ศ. 1903 เขาใช้เวลาส่วนมากอยู่ในเคียฟซึ่งเขาได้ไปเยี่ยมเยือนวัด Monastery of thé Caves (ซึ่งปัจจุบันปลี่ยนชื่อเป็น Kiev Pechersk Lavra) ในเมือง Kazan ซึ่งเขาได้ดึงดูดความสนใจแก่เหล่าพวกบาทหลวงและสมาชิกชั้นสูงต่างๆ [16]

รัสปูตินได้เดินทางไปยังเมืองหลวงเพื่อพบปะกับ John of Kronstadt , Pierre Gilliard ได้เขียนไว้ว่ารัสปูตินได้เดินทางมาถึงในปี ค.ศ. 1905[17] , M. Nelipa คิดว่าฤดูใบ้ไม้ผลิจะเกิดขึ้นในปีค.ศ. 1904 Iliodor (เป็นชื่อนามแฝงของ Sergei Trufanov ซึ่งเดิมเป็นนักโบสถ์ซึ่งมารู้จักกับรัสปูตินแล้วก็ได้มาแต่งหนังสือชีวประวัติในบั้นปลายชีวิต) เชื่อว่าฤดูใบ้ไม้ผลิจะมาตอนปีค.ศ. 1903 ประมาณธันวาคม [18] เขาได้แนะนำให้รู้จักกับ Ivan Stragorodsky อธิการบดีของ Theological Faculty (เป็นโรงเรียนสอนศาสนา), รัสปูตินพักอยู่ที่ Alexander Nevsky Lavra ชั่วคราว , และเขาก็พบกับ Hermogenes และ Theophanes of Poltava ผู้ที่ศรัทธาในด้านจิตวิทยาของรัสปูตินและความเฉียบแหลมคมของเขา , รัสปูตินถูกเชื้อเชิญโดยเจ้าหญิงมิลคา (ภาษาอังกฤษ :Princess Milica of Montenegro) จากเมืองประเทศมอนเตเนโกร และเจ้าหญิงอนาตาเซีย (ภาษาอังกฤษ : Princess Anastasia of Montenegro) แห่งประเทศมอนเตเนโกร ซึ่งเป็นน้องสาวของเจ้าหญิงมิลคาเอง ซึ่งเจ้าหญิงอนาตาเซียมีความสนใจในเวทมนตร์เปอร์เซีย[19]เจตนิยมและการใช้เวทมนตร์คาถา เจ้าหญิงมิลคาได้นำเสนอเรื่องรัสปูตินไปยังซาร์นีโคลัสที่ 2 แห่งรัสเซีย และภรรยาของอเล็กซานเดอร์ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 1905 .[20]

ก่อนที่จะมีการประชุมกับรัสปูติน , ซารนิโคลัสที่ 2 แห่งรัสเซียต้องรับมือกับสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น , วันอาทิตย์ทมิฬ , การปฏิวัติรัสเซีย พ.ศ. 2448 มีเหตุชุลมุนมากมายหลายที่และการพังทลายของตึกต่างๆ บริเวณในเมืองที่ไม่มีไฟฟ้าเข้าถึงเหล่าจักรพรรดิ์และผู้มีอำนาจทั้งหลายถูกบังคับ เมื่อวันที่ 17 โดย Sergei Witte ได้ออกลงนามแถลงการณ์เมื่อเดือนตุลาคม ซึ่งจะเป็นการยอมรับที่จะได้สถาปนารัฐดูมาและจะให้เป็นส่วนหนึ่งของเขาในระบอบผเด็จการ[21] หกเดือนต่อมา Sergei Witte ได้ถูกรับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี , แต่ถูกปกครองที่แท้จริงคือนายพล Dmitri Trepov

แหล่งที่มา

WikiPedia: กรีโกรี รัสปูติน http://www.rasputin-photos.narod.ru/ http://www.alexanderpalace.org/palace/Rasputin.htm... http://www.historiek.net/index.php?option=com_cont... http://www.alexanderpalace.org/palace/rasputinrepo... http://encarta.msn.com/encyclopedia_761567081/Rasp... http://encarta.msn.com/encyclopedia_761569348/Russ... http://history1900s.about.com/library/weekly/aa020... http://www.rasputinthemusical.com/ http://www.bbc.co.uk/pressoffice/pressreleases/sto... http://www.encspb.ru/en/article.php?kod=2804023731